การออกกำลังกายถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยให้คนเราสุขภาพแข็งแรง ช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย ให้ความรู้สึกที่ดีช่วยให้สมองคุณปลอดโปร่งเมื่อได้ขยับเนื้อขยับตัว แต่ทุกอย่างบนโลกนั้นเมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียตามมา การออกกำลังกายก็เช่นกัน ถ้าคุณรู้สึกหักโหมมากเกินไปหรือออกกำลังกายแบบไม่ถูกสุขลักษณะ ปัญหาการเจ็บป่วยก็จะเข้ามาแทนที่ ดังนั้นต้องศึกษาให้ดีว่าออกกำลังกายอย่างไรถึงจะดีต่อสุขภาพร่างกายของเราจริงๆ นอกจากตัวคุณจะได้ประโยชน์จากการศึกษารายละเอียดต่างๆ แล้ว คุณก็ยังสามารถที่จะนำข้อมูลต่างๆ ไปแนะนำกับคนที่คุณรักได้อีกด้วย
1. หักโหมมากเกินไป
แน่นอนว่าเวลาที่คุณออกไปวิ่งตามสวนสาธารณะ คุณก็ต้องการวิ่งเพื่อสุขภาพที่ดีรวมไปถึงการลดน้ำหนัก จึงทำให้ในบางครั้งคุณต้องวิ่งอย่างหนักเพื่อที่จะให้น้ำหนักของคุณลดลงเร็วๆ แต่นั่นคือวิธีที่ผิดมากเลยล่ะ แทนที่คุณจะลดน้ำหนักลงเร็วๆ เผลอๆ อาจจะทำให้คุณเป็นลมไปซะก่อน วิธีง่ายๆก็คือ ก่อนอื่นคุณต้องกำหนดไว้เลยว่าต้องการวิ่งวันละกี่กิโลถึง วิ่งกี่นาที กี่ชั่วโมงถึงจะพอ ในช่วงแรกก็อาจจะเริ่มต้นด้วยระยะทางที่สั้นก่อนแล้วค่อยไล่ไปในระยะยาว ตามสภาพร่างกายของตัวคุณเอง สิ่งที่ควรจดจำก็คือถ้าไม่ไหวอย่าฝืนเป็นอันขาด ขนาดนักกีฬาระดับโลกหลายๆ คน ก็มีให้เห็นกันมามากแล้วว่าได้รับบาดเจ็บระหว่างซ้อมหรือบางคนเกิดอาการน็อคจนต้องเข้าโรงพยาบาลเลยก็มีให้เห็นนักต่อนักแล้ว
2. ไม่ยืดเส้นยืดสาย
คุณต้องรู้จักยืดเส้นยืดสายก่อนเป็นอันดับแรกก่อนเลยถ้าคุณจะออกไปวิ่ง ไปเดิน หรือเล่นกีฬาใดๆ ก็ตามแต่ ถ้าคุณไม่ยืดกล้ามเนื้อคลายเส้น มีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บมากเลยทีเดียวเรื่องนี้สำคัญมาก ถ้าคุณไม่ทราบว่าการยืดเส้นยืดสายที่ถูกต้องเป็นอย่างไร แนะนำให้ถามผู้รู้เสียก่อนหรือไม่ก็เข้าไปดูคำแนะนำจากสื่อโซเชียลต่างๆ ว่ามีท่าไหนบ้าง แล้วแต่ละท่าควรทำครั้งละกี่นาที ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดถ้าอยากจะผอมลงสุขภาพดีก็ต้องอดทนกันหน่อย
3. ออกกำลังกายไม่ต่อเนื่อง
ถ้าคุณออกกำลังกายไม่ต่อเนื่อง เช่นวิ่งวันเดียวหยุดไป 3 วัน ออกวิ่งอีกวันนึงหยุดไปอีก 2 วัน พฤติกรรมเหล่านี้ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณเองมากกว่าได้รับรับประโยชน์ เนื่องจากว่าร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ทันจะทำให้ได้รับบาดเจ็บจากพฤติกรรมการออกกำลังร่างกายในลักษณะนี้ได้ ถ้าคุณอยากจะสุขภาพแข็งแรงลดน้ำหนักได้ดี แนะนำว่าควรออกำลังกายอย่างต่อเนื่องหรือพักวันเว้นวันก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาจริงๆ ก็ให้ออกกำลังกายเบาๆ ไม่ควรหักโหมมากจนเกินไป
4. ออกกำลังกาย ในพื้นที่ที่มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม มลภาวะ
การที่เราเจ็บไข้ได้ป่วยจากการออกกำลังกาย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะไปออกกำลังกายในสถานที่มีสภาพแวดล้อมไม่ดี เป็นที่ที่มีเชื้อโรคอยู่เป็นจำนวนมาก เช่นแหล่งชุมชนที่ไม่มีลมโกรก ระบายอากาศ สถานที่ปิดอับอากาศถ่ายเทไม่ได้ รวมไปถึงฟิตเนสบางที่ที่ไม่มีการดูแลที่ดีอย่างเป็นระบบ
5. ไม่อดข้าวก่อนไปออกกำลังกาย
ข้อนี้ถือว่ามีให้เห็นกันบ่อยๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่พยายามลดน้ำหนัก มักจะงดมื้อเย็นเพื่อให้ตัวเองผอม แต่วิธีในการงดอาหารนั้นเป็นวิธีที่ผิดเป็นอย่างมาก ส่งผลเสียในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะทางจะเป็นอาการโยโย่ เนื่องจากการอดอาหารจะทำให้ร่างกายจะเข้าสู่โหมดป้องกันตัวเอง หรือจำศิลเพื่อที่จะเก็บรักษาพลังงานไว้ใช้ให้นานที่สุด แล้วเมื่อใดที่คุณกลับมารับประทานมื้อเย็นตามปกติสิ่งที่จะตามมาก็คือ ระบบเผาผลาญพลังงานของคุณจะเสียนั่นเอง แล้วบอกก่อนเลยว่าระบบเผาผลาญที่เสีย จะกู้ให้กลับมาเป็นแบบเดิมนั้นยากมากเลยล่ะ ลองเปลี่ยนจากการงดอาหารมาเป็นน้ำเต้าหู้ หรือไม่ก็สลัดผักผลไม้ดีกว่า หลายคนคงจะได้เทคนิคดีๆ ในการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีกันไปมากแล้วใช่หรือไม่ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนคิดไว้เสมอว่าการออกกำลังกายผิดวิธีย่อมส่งผลเสียมากกว่าผลดี แถมยังจะทำให้ร่างกายของคุณเจ็บป่วยได้อีกด้วย